MENU

ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับ IELTS

IELTS คืออะไร?

IELTS คือ การทดสอบวัดระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษสำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาต่อหรือทำงานในต่างประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก มีชื่อเต็มว่า International English Language Testing System

ความสำคัญของ IELTS

  • ใช้เพื่อเข้าศึกษาต่อมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทยและต่างประเทศ โดยคะแนนสามารถใช้ยื่นเข้าทำงานในต่างประเทศได้ทั้งหน่วยงานรัฐบาล และบริษัทเอกชน
  • ผลสอบ IELTS สามารถใช้ในการย้ายถิ่นฐานไปประเทศ สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย แคนาดา นิวซีแลนด์
  • ใช้เพื่อทดสอบความรู้ความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษของตนเอง

เหตุผลที่ควรสอบ IELTS

IELTS เป็นข้อสอบวัดความสามารถทางภาษาอังกฤษที่มีมาตรฐานในระดับสากล สามารถยื่นคะแนนได้ในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทยเองก็สามารถยื่นได้ทุกมหาวิทยาลัยหากสาขานั้น ๆ ต้องการคะแนนภาษาอังกฤษ

IELTS มีกี่แบบ และแตกต่างกันอย่างไร

  • IELTS Academic – สำหรับการเรียนในระดับอุดมศึกษา ซึ่ง IELTS ที่พูดถึงโดยทั่วไปมักจะหมายถึง IELTS ประเภทนี้
  • IELTS Academic สําหรับ UKVI สำหรับการสมัครวีซ่าหลายๆประเภทเพื่อเข้าประเทศอังกฤษ เพื่อการศึกษาต่อและการทำงานเฉพาะทางบางประเภท โดยมีการออกแบบการสอบสำหรับการใช้งานด้านวิชาการ และงานที่ใช้ทักษะภาษาอังกฤษขั้นสูง
  • IELTS General Training สำหรับผู้ที่ต้องการนำคะแนนไปใช้ในการศึกษาต่อในระดับต่ำกว่าปริญญา หรือในการสมัครงานกับองค์กรต่างๆ
  • IELTS General Training สำหรับ UKVI สำหรับการทํางาน ย้ายถิ่นฐาน ศึกษา หรือเข้ารับการฝึกอบรมทางวิชาชีพในสหราชอาณาจักร
  • IELTS Life Skills A1 สำหรับผู้ใช้สมัครวีซ่าคู่หมั้น คู่สมรส และครอบครัว แห่งสหราชอาณาจักร
  • IELTS Life Skills B1 สำหรับการสมัครขอวีซ่าพลเมืองแห่งสหราชอาณาจักร

รูปแบบและโครงสร้างข้อสอบ IELTS

IELTS มีสอบอะไรบ้าง

  • การฟัง (Listening)
  • การอ่าน (Reading)
  • การเขียน (Writing Task 1 & Task 2)
  • การพูด (Speaking)

จำนวนข้อสอบ IELTS แต่ละพาร์ท

  • IELTS Listening มี 4 Section แต่ละ Section มี 10 คำถาม
  • IELTS Reading มี 40 ข้อ
  • IELTS Writing แบ่งเป็น 2 ส่วนคือ IELTS Writing Task 1 และ IELTS Writing Task 2
  • IELTS Speaking มี 3 Sections

ระยะเวลาในการทำข้อสอบ IELTS

รวมเวลาสอบ IELTS ทั้งหมด : 2 ชั่วโมง 45 นาที แบ่งเป็น

  • Listening : 30 นาที
  • Reading : 60 นาที
  • Writing : 60 นาที
  • Speaking : 11–14 นาที

รูปแบบของข้อสอบIELTS แต่ละส่วน

IELTS Listening มีรูปแบบข้อสอบ ดังนี้

  • Completing information/Labelling
  • Short-answer questions
  • Sentence completion
  • Multiple-choice questions
  • Matching questions

IELTS Reading มีรูปแบบข้อสอบ ดังนี้

  • Fill-in questions
  • True/False/Not Given หรือ Yes/No/Not Given
  • Sentence completion
  • Matching questions
  • Short-answer questions
  • Multiple-choice questions

IELTS Writing มีรูปแบบข้อสอบ ดังนี้

  • การเขียนอธิบายกราฟรูปแบบต่างๆ รวมถึงแผนภาพ แผนภูมิ
  • การเขียนแสดงความคิดเห็นกี่ยวกับ มุมมอง วิเคราะห์ ให้เหตุผล เปรียบเทียบ และ โต้แย้ง ในหัวข้อที่ข้อสอบกำหนดมาให้

IELTS Speaking มีรูปแบบข้อสอบ เป็นการพูดคุยเรื่องทั่วไป เช่น เวลาว่าง ทำไมถึงมาสอบ IELTS จากนั้นผู้สอบจะได้การ์ดหัวข้อสอบ แล้วพูดในหัวข้อนั้น พร้อมเสนอมุมมองของผู้สอบ

เนื้อหาที่ออกสอบ IELTS

สรุปเนื้อหาสำคัญในแต่ละพาร์ทของ IELTS

IELTS Listening

  • Listening Section 1 เป็นการฟังบทสนทนาของคน 2 คนที่พูดถึงเรื่องราวทั่วไปในชีวิตประจำวัน
  • Listening Section 2 เป็นการฟังคนเดียวพูด โดยเนื้อหาที่พูดจะกึ่งเป็นทางการ
  • Listening Section 3 เป็นการฟังบทสนทนา ตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป เนื้อหาที่พูดจะเป็นทางการ
  • Listening Section 4 เป็นการฟังคนเดียวพูด โดยเนื้อหาที่พูดจะเป็นทางการ

IELTS Reading

  • ข้อสอบพาร์ทการอ่านสำหรับ IELST นั้น บทความส่วนมากจะเป็น บทความเชิงวิชาการ โดยรูปแบบคำถามในพาร์ท Reading จะมีหลากหลายรูปแบบ เช่น Multiple Choice, Sentence Completion, Matching Information True/False/Not Given, Yes/No/Not Given

IELTS Writing

ข้อสอบ IELTS Writing จะให้เวลาในการสอบ 60 นาที ข้อสอบ แบ่งเป็น 2 ส่วนคือ IELTS Writing Task 1 และ IELTS Writing Task 2

  • IELTS Writing Task 1 เป็นการสอบ Writing โดยผู้สอบจะต้องเขียนอธิบาย กราฟ , ตาราง , แผนภูมิ, แผนภาพ อย่างน้อย 150 คำ
  • IELTS Writing Task 2 เป็นการสอบ Writing โดยผู้สอบจะต้องเขียนแสดงความคิดเห็น มุมมอง วิเคราะห์ ให้เหตุผล เปรียบเทียบ และโต้แย้ง ในหัวข้อที่ข้อสอบกำหนดมาให้อย่างน้อย 250 คำ

IELTS Speaking

  • Speaking Section 1 : พูดคุยเรื่องทั่วไป
  • Speaking Section 2 : ผู้สอบจะได้การ์ดหัวข้อสอบ แล้วพูดในหัวข้อนั้น พร้อมเสนอมุมมองของผู้สอบ
  • Speaking Section 3 : หัวข้อที่พูดจะเป็นหัวข้อเดียวกับ Section 2 ที่พึ่่งพูดไป แต่จะเน้นการเสนอมุมมอง โต้แย้ง และเหตุผล

ตัวอย่างข้อสอบ IELTS

ตัวอย่างข้อสอบ IELTS writing task 1
ตัวอย่างข้อสอบ IELTS writing task 1
ตัวอย่างข้อสอบ IELTS writing task 2
ตัวอย่างข้อสอบ IELTS writing task 2
ตัวอย่างข้อสอบ IELTS reading part 1
ตัวอย่างข้อสอบ IELTS reading part 1
ตัวอย่างข้อสอบ IELTS reading part 2
ตัวอย่างข้อสอบ IELTS listening part 1
ตัวอย่างข้อสอบ IELTS listening part 3

แหล่งเรียนรู้เพิ่มเติม IELTS

สำหรับดูตัวอย่างข้อสอบและแนวทางการตอบคำถาม: https://ielts.org/take-a-test/preparation-resources/sample-test-questions

สำหรับลองทำข้อสอบออนไลน์: https://exam.chulatutor.com/ielts/

การเตรียมตัวสอบ IELTS

เทคนิคการทำข้อสอบ IELTS แต่ละพาร์ท

การเตรียมตัวสอบ IELTS Reading

แนะนำให้ใช้ทักษะการอ่านแบบ Skimming คือ เป็นการอ่านอย่างเร็ว ๆ เป็นจุด ๆ โดยเน้นอ่านเพื่อหาใจความสำคัญ และอ่านเพื่อหารายละเอียดที่สำคัญ ๆ ของบทความนั้น ๆ และการอ่านแบบ Scanning คือ การอ่านแบบผ่าน ๆ สนใจเฉพาะประเด็นที่เราต้องการเท่านั้นเข้ามาช่วย เพราะหากเราอ่านทุกตัวอักษรในแต่ละบทความก็จะเสี่ยงในการทำข้อสอบไม่ทัน

 

การเตรียมตัวสอบ IELTS Writing Task 1

จะขึ้นอยู่กับว่าเราได้ชุดข้อมูลแบบใดมา ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเราจะต้องเขียนบรรยายลักษณะของกราฟหรือชุดข้อมูลที่โจทย์ให้มา แนะนำให้พยายามหาจุดแตกต่างและจุดที่คล้ายคลึงกันระหว่างข้อมูลให้พบ แล้วนำข้อมูลเหล่านั้นมาเปรียบเทียบกัน พยายามใช้คำเชื่อมที่แสดงความขัดแย้งกัน เช่น However, While, Whereas, By contrast, Moreover หรือหากเป็นการพูดถึงความคล้ายคลึงกันของข้อมูล แนะนำให้ใช้คำเชื่อมที่แสดงความสอดคล้องกัน เช่น Similarly

การเตรียมตัวสอบ IELTS Writing Task 2

  • Agree & Disagree ควรเลือกเลยว่าจะเขียนแบบเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย แล้วหาเหตุผลมาสนับสนุนพร้อมยกตัวอย่างประกอบ โดยรูปแบบนี้จะเป็นรูปแบบที่ออกบ่อยมากที่สุด
  • Cause & Effect Keyword ควรเขียนสาเหตุและผลกระทบพร้อมการอธิบายและยกตัวอย่างในแต่ละพารากราฟเลย
  • Problem & Solution ในพารากราฟแรกควรเขียนถึงปัญหาทั้งหมดก่อน และในอีกหนึ่งพารากราฟก็ควรเขียนถึงทางการแก้ปัญหา สำหรับทางแก้ปัญหาในการตอบให้พยายามคิดกว้างๆ เช่น การให้ความร่วมมือของรัฐบาล และ หน่วยงานเอกชน เป็นต้น
  • Descriptive essay ควรแบ่งจำนวนพารากราฟตามคำถามที่ได้มา (สังเกตจากเครื่องหมายคำถาม) และควรใช้ Adj. ในการบรรยายให้เห็นภาพ
  • Discuss (Advantage vs. Disadvantage) ควรตัดสินใจก่อนว่าจะเลือกยืนฝั่งข้อดี หรือข้อเสีย เลือกฝั่งไหนให้คิดฝั่งนั้นมากกว่า เช่น ถ้าเลือกจะชูข้อดี ให้คิดข้อดีสัก 3 ข้อ ข้อเสียสัก 2 ข้อ แบ่งออกเป็น 2 พารากราฟ และเอาข้อเสีย (ฝั่งที่เราไม่ได้เลือก) ขึ้นเป็น Body พารากราฟแรกก่อนเสมอ

การเตรียมตัวสอบ IELTS Listening

แนะนำให้อ่านคำถามก่อนที่ไฟล์เสียงจะถูกเปิด เพื่อที่จะได้โฟกัสได้ถูกว่าต้องการเน้นฟังตรงไหนบ้าง และควรพยายามจับใจความสำคัญ หรือ keyword ที่สำคัญ เช่น วัน เวลา สถานที่ หรือข้อมูลที่มีตัวเลขต่าง ๆ ทั้งนี้ ต้องระวังคำที่มีการออกเสียงใกล้เคียงกันด้วย

การเตรียมตัวสอบ IELTS Speaking

แนะนำให้ใช้คำศัพท์และโครงสร้างประโยคที่หลากหลาย ถูกหลัก Grammar นอกจากนี้ต้องพยายามตอบคำถามให้เต็มประโยค อย่าตอบสั้น ๆ เพียง “Yes” หรือ “No” เพียงอย่างเดียว แต่ให้ขยายคำตอบด้วยการอธิบายหรือให้เหตุผลเพิ่มเติมด้วย

แอปพลิเคชันช่วยฝึกสอบ IELTS

  • IELTS Practice & IELTS Test (by Magoosh)
  • IELTS Practice – IELTS Test – Writing & Vocabulary
  • 10000+ Free Videos for IELTS
  • IELTS Preparation – ILFree
  • IELTS Essays with Feedback

เคล็ดลับสำหรับผู้สอบ IELTS ครั้งแรก

การสอบ IELTS ในครั้งแรก หลาย ๆ คนอาจจะไม่ค่อยคุ้นชินกับสถานการณ์การสอบ ดังนั้น เคล็ดลับที่อยากแนะนำคือ การฝึกทำข้อสอบแบบที่ต้องจับเวลาจริงด้วย เพื่อให้เราคุ้นเคยกับสถานการณ์จริงให้มากที่สุด ประกอบกับการฝึกทำข้อสอบในทุกพาร์ให้เยอะ ๆ เพื่อสร้างความคุ้นชินเมื่อเวลาเจอข้อสอบจริงจะได้ไม่ตื่นเต้นจนเกินไป และอย่าลืมเตรียมเอกสารที่ต้องใช้ ตรวจสอบสถานที่สอบและเวลาให้เรียบร้อย และไปถึงสถานที่สอบล่วงหน้า เพื่อให้คุณมีเวลาสำหรับการเตรียมตัวในสถานที่สอบ

วิธีสมัครสอบ IELTS

ค่าใช้จ่ายในการสอบ IELTS

IELTS Academic อัตราค่าสอบ 7,650 บาท

วิธีการสมัครสอบ IELTS British Council

  • คลิกเข้าไปหน้าเว็บไซต์ https://www.britishcouncil.or.th/exam/ielts/book-test
  • เลือกเมนู “การสมัครสอบ”
  • เลือกประเภทการสอบ จากนั้คลิก “ค้นหาและสมัครสอบ”
  • เลือกประเภทการสอบอีกครั้ง จากนั้นเลือกสถานที่/จังหวัดที่ต้องการสอบ
  • เลือกวันที่ต้องการสอบ จากนั้นคลิก “Book test”
  • ทำตามขั้นตอนที่ระบุเพื่อไปสู่การชำระเงิน แล้วรอยืนยันอีเมลได้เลย

คำถาม IELTS ที่พบบ่อย

อายุเท่าไหร่ถึงสอบ IELTS ได้

การสอบ IELTS ไม่มีกำหนดอายุขั้นต่ำในการสอบ แต่ช่วงอายุที่แนะนำว่าจะเป็นช่วงที่มีความพร้อมในการสอบ IELTS นั้น ไม่ควรต่ำกว่า 16 ปี

สอบ IELTS ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง

สิ่งที่ต้องเตรียมในการสมัครสอบ IELTS คือ บัตรประชาชนหรือพาสปอร์ต ซึ่งเอกสารนี้ต้องนำไปในวันสอบจริงด้วยเช่นกัน และหากเป็นผู้สมัครสอบที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี ต้องนำใบ Consent Form ไปด้วย

คะแนนสอบ IELTS สำหรับการยื่นเข้ามหาวิทยาลัย

คะแนนสอบ IELTS ยื่นเข้ามหาวิทยาลัยในประเทศไทย

สำหรับการยื่นคะแนน IELTS เพื่อเข้ามหาวิทยาลัยในประเทศไทย โดยส่วนใหญ่จะใช้เป็น IELTS Academic ในระดับคะแนนที่หลากหลาย ตั้งแต่ 4.0 ไปจนถึง 7.0 คะแนน (คะแนนเต็ม 9.0) ซึ่งจะขึ้นอยู่กับว่าหลักสูตรนั้น ๆ เป็นหลักสูตรไทยหรือหลักสูตรนานาชาติ และเป็นสาขาที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษในการเรียนมากน้อยแค่ไหน ทั้งนี้ อาจมีบางสาขาและบางมหาวิทยาลัยที่เป็นหลักสูตรความร่วมมือกับต่างประเทศ (ต้องไปเรียนที่ต่างประเทศ) อาจขอเป็นคะแนน IELTS Academic แบบ UKVI เพราะต้องเกี่ยวข้องกับการทำวีซ่านั่นเอง

คะแนนสอบ IELTS ยื่นเข้ามหาวิทยาลัยในต่างประเทศ

สำหรับการยื่นคะแนน IELTS เพื่อเข้ามหาวิทยาลัยในต่างประเทศ อาจจะใช้เป็น IELTS Academic หรือ IELTS Academic แบบ UKVI ก็ได้ เพราะต้องเกี่ยวข้องกับการทำวีซ่านั่นเอง ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละหลักสูตรและแต่ละประเทศ ซึ่งระดับคะแนนที่ใช้ก็มีความแตกต่างกันไป เช่น ประเทศอังกฤษ มีขอตั้งแต่คะแนน 6.0 ขึ้นไป ประเทศออสเตรเลีย มีขอตั้งแต่คะแนน 6.0 ขึ้นไป ประเทศนิวซีแลนด์มีขอตั้งแต่ 6.0 ขึ้นไป ประเทศแคนาดา มีขอตั้งแต่ 6.5 ขึ้นไป เป็นต้น (คะแนนเต็ม 9.0)

รีวิว IELTS